จันทร์ -
ศุกร์ 9.00 - 18.00
น เสาร์ 9.00 - 16.30
น
| |
ค่าธรรมเนียมวีซ่านักเรียน |
|
AUS |
17,350 Baht |
|
USA |
4,620 Baht |
|
UK |
10,348 Baht |
|
NZ |
5,000 Baht |
|
Canada |
4,000 Baht |
| |
Page Counter: 501
Since: 10 Apr
2005 |
| | |
| |
ข้อมูลทั่วไปของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ |
ToP |
ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เป็นประเทศเล็กๆ ตั้งอยู่ใจกลางของยุโรป
พื้นที่ 2 ใน 3 ของประเทศ ประกอบไปด้วย ภูเขา
หิมะ ป่าไม้ และทุ่งหญ้า แบ่งประเทศออกเป็น
26 มณฑล (Cantons) พลเมืองของสวิต ใช้ภาษาพูดที่ต่างกัน
แบ่งออกเป็นกลุ่มใหญ่ๆ ได้ 5 กลุ่ม คือ กลุ่มที่พูดภาษาเยอรมัน
(65%) กลุ่มที่พูดภาษาฝรั่งเศส (18.4%) กลุ่มที่พูดภาษาอิตาเลียน
(9.8%) กลุ่มที่พูดภาษาโรมังซ์ (0.8%) และกลุ่มภาษาอื่นๆ
(6%) แต่ภาษาที่ใช้เป็นภาษาทางราชการมี 3 ภาษา
คือ ภาษาเยอรมัน ภาษาฝรั่งเศสและภาษาอิตาเลียน
โดยแต่ละมณฑลจะเป็นผู้กำหนดการใช้ภาษาดังกล่าวเป็นภาษาของทางราชการ
|
สภาพภูมิประเทศ |
ToP |
สภาพภูมิอากาศ |
ToP |
ในสวิตเซอร์แลนด์มิได้เหมือนกันทั่วทั้งประเทศ
เนื่องจากมีภูมิประเทศที่แตกต่างกัน จะมีลมหนาวเย็นจากขั้วโลกเหนือพัดผ่านมาทางทิศเหนือ
และลมอุ่นมาจากทางทิศใต้ บางแห่งอุณหภูมิระหว่างฤดูร้อนกับฤดูหนาวจะแตกต่างกันมาก
เช่น เมืองซูริค ฤดูร้อนอุณหภูมิอาจสูงถึง 30
องศาเซลเซียส และฤดูหนาวอาจต่ำถึง -25 องศาเซลเซียส |
การคมนาคม และการใช้ชีวิต |
ToP |
สายการบินแห่งชาติ สวิสแอร์ |
มีสนามบิน 3 แห่งคือ เจนีวา ซูริคและบาเซิล สายการบินไทยจะลงที่ซูริค
และต่อสายภายในประเทศ ลงที่เจนีวาหรือบาเซิล
- ระบบการขนส่งด้วยรถไฟเป็นที่นิยมมาก และสะดวก
สบาย ปลอดภัย และตรงต่อเวลา
- อัตราค่าโดยสารขึ้นอยู่กับจุดหมายที่จะไป มีตั๋วเดือน
และบัตรครึ่งราคาสำหรับผู้ที่เดินทางบ่อย
- ตารางเวลารถไฟรับได้ฟรีทุกสถานี
- มีรถไฟหลายแบบ, Inter-city, รถด่วน และรถช้าที่จอดทุกป้ายเล็กๆ
- ภายในเมืองต่างๆ มีรถรางและรถเมล์บริการ มีตารางเวลาที่แน่นอนบอกทุกป้าย
ไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องรถติด ปกติรถไม่ติดเลย
- อัตราค่าโดยสาร: ผู้ใหญ่ SFR.1.5 ต่อ 1 ชั่วโมง
โดยที่ภายในหนึ่งชั่วโมงจะขึ้นสายใดต่อสายใดก็ได้ในเมือง
- การซื้อตั๋วรถเมล์ซื้อได้จากเครื่องหยอดเหรียญอัตโนมัติที่ตั้งไว้ทุกป้ายรถเมล์
มีตั๋วเดือนบริการสำหรับผู้ใช้เส้นทางเดิม หรือนักเรียน
นักศึกษา
มีเรือโดยสารท่องเที่ยวตามทะเลสาบใหญ่ๆ ซื้อบัตรได้ที่ท่าเรือ
สามารถเช่ารถยนต์ขับได้ โดยใช้ใบขับขี่สากลที่แปลเป็นภาษาอังกฤษ
หรือฝรั่งเศส หรือเยอรมัน และได้รับการรับรองเอกสาร
อัตราค่าเช่ารถไม่แพงมากนัก แต่ต้องเสียค่าจอดรถยนต์
การจราจรขับชิดขวา พวงมาลัยอยู่ทางซ้าย ตรงข้ามกับเมืองไทย
สามารถใช้โทรศัพท์สาธารณะในจุดใดทั่วประเทศ โทรไปยังที่ต่างๆ
ทั่วโลก โดยหมุนหมายเลขรหัสประเทศนำ ตามด้วยหมายเลขเมือง
และเบอร์โทร ของประเทศไทยคือ 0066 + จังหวัด
+ หมายเลขโทรศัพท์ มีโทรศัพท์ทางไกลทั้งหยอดเหรียญและใช้การ์ดโฟน
ระบบไฟฟ้าที่ใช้สำหรับอุปกรณ์ไฟฟ้าทุกชนิด คือ
250 โวลท์ เหมือนของไทย แต่หัวปลั๊กจะเป็นแบบ
3 ขา สามารถหาซื้อหัวต่อเชื่อมได้ตามห้างสรรพสินค้าทั่วไป
|
ระบบการศึกษาของประเทศสวิสเซอร์แลนด์ | ToP |
แบ่งเป็น 5 ระดับ ดังนี้
|
|
ระดับอนุบาล
(Pre-School Education)
เป็นการศึกษาก่อนวัยเรียน
โดยทั่วไปเด็กจะเข้าเรียนอนุบาลตั้งแต่อายุ
3-6 ปี
|
|
|
ระดับประถมศึกษา
(Primary Education)
จัดเป็นการศึกษาภาคบังคับเด็กสวิสเซอร์แลนด์ทุกคน
จะต้องเข้าเรียนชั้นประถมศึกษา เมื่ออายุ
6 ปีขึ้นไป จำนวนปีที่เรียนในระดับประถมศึกษาแตกต่างกันไปแล้วแต่ละมณฑลจะจัด
ส่วนใหญ่เป็น 6 ปี แต่บางมณฑลจัดเป็น
4 ปีหรือ 5 ปี
|
|
|
ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น
(Lower Secondary Education)
แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ โรงเรียนศิลปศาสตร์
(Liberal Arts School) โรงเรียนมัธยมศึกษาตอนปลาย
สายอาชีพ
|
|
|
ระดับอุดมศึกษา
(Tertiary Education)
การศึกษาวิชาชีพชั้นสูง ได้แก่ Higher Vocational
School สอนวิชาชีพต่างๆ เช่น ครูอนุบาล
ธุรกิจ การบริหาร เป็นต้น Higher Technical
School สอนวิชาชีพทางช่าง เช่น วิศวกรรมศาสตร์
การศึกษาในมหาวิทยาลัยและสถาบันเทคโนโลยี
โดยทั่วไปแบ่งเป็น 2 ระดับคือ
|
1. |
First
degree (ระดับปริญญาตรี)
สถานศึกษาบางแห่งเรียก diploma ระยะเวลาในการศึกษา
6-13 semester หรือ 3-6.5 ปี
(2 semester 1 ปี) ขึ้นอยู่กับสาขาวิชา
และสถานศึกษากำหนด |
|
2. |
Doctorate
(ปริญญาเอก)
ระยะเวลาในการศึกษา 2-3 ปี ต่อจากปริญญาตรี
การเรียนในระดับนี้ส่วนใหญ่เป็นการสัมมนา
ค้นคว้าวิจัย และเขียนวิทยานิพนธ์
สถานศึกษาบางแห่งอาจแบ่งเป็น
3 ระดับ คือ Licentiate, Diploma
(หรือ Certificate) และ Doctorate |
|
ปีการศึกษา แบ่งเป็น 2 ภาค (semester)
- Winter Semester กลางเดือนตุลาคม
ต้นเดือนมีนาคม
- Summer Semester กลางเดือนเมษายน
กลางเดือนกรกฎาคม
การสมัครเรียนสำหรับนักเรียนไทย |
ระดับปริญญาตรี
ระดับสูงกว่าปริญญาตรี
|
1. |
- เขียนจดหมายสมัครโดยตรงไปยังมหาวิทยาลัย
โดยส่งเอกสารประกอบการสมัคร คือ Transcript
ปริญญาตรี ผลการสอบภาษาฝรั่งเศสหรือเยอรมัน |
|
2. |
- สถานศึกษาจะพิจารณาจากหลักฐานดังกล่าวโดยไม่ต้องสอบเข้า
|
หมายเหตุ: นักเรียนไทยมีสิทธิ์สมัครระดับ
ประถมศึกษาและมัธยมศึกษาในสวิตเซอร์แลนด์ได้
โดยรัฐบาลสวิตเซอร์แลนด์ไม่ได้จำกัดเรื่องอายุของนักเรียน
แต่อาจจะมีปัญหาในด้านภาษา เนื่องจาก โรงเรียนในสวิตเซอร์แลนด์
ใช้ภาษาฝรั่งเศส หรือเยอรมัน หรืออิตาลี ในการเรียนการสอน
ส่วนการสมัครสถานศึกษานั้น ต้องสมัครโดยตรงไปยังสถานศึกษา
มหาวิทยาลัยส่วนใหญ่ของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ไม่มีหอพักสำหรับนักศึกษา
ฉะนั้น นักศึกษา จะต้องหาห้องเช่าข้างนอก โดยอาจขอคำปรึกษาแนะนำจาก
Student Advisor ของมหาวิทยาลัยได้
การทำวีซ่านักเรียนสำหรับประเทศสวิตเซอร์แลนด์นั้น
ผู้อนุมัติวีซ่า มิใช่กงสุลสวิตเซอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย
แต่เป็นหน่วยงานตำรวจในเมืองที่สถานศึกษานั้นๆ
ตั้งอยู่โดยสถานศึกษา ที่นักเรียนสมัครจะดำเนินเรื่องให้
ดังนี้
|
1. |
เมื่อสถานศึกษาตอบรับแล้ว สถานศึกษาจะส่งเรื่องขออนุมัติวีซ่า
ไปยังหน่วยงานตำรวจในเมืองที่สถานศึกษานั้นตั้งอยู่ |
|
2. |
หน่วยงานตำรวจจะแจ้งการอนุมัติวีซ่าไปยังกระทรวงต่างประเทศที่เบิร์น
และกระทรวงการต่างประเทศ จะแจ้งเรื่องการอนุมัติวีซ่ามายังสถานฑูตสวิตเซอร์แลนด์ประจำประเทศไทย
* ขั้นตอนการอนุมัติจากตำรวจ จนถึงสถานฑูตสวิตเซอร์แลนด์ในประเทศไทย
ต้องใช้เวลาประมาณ 6-8 สัปดาห์
|
|
3. |
ในขณะที่สถานศึกษาส่งเรื่องขออนุมัติวีซ่าไปยังหน่วยงานตำรวจนั้น
สถานศึกษา จะส่งใบตอบรับมาให้นักเรียนด้วย
ซึ่งนักเรียนต้องติดต่อไป สถานฑูตสวิตเซอร์แลนด์
ในประเทศไทย เพื่อประทับตราวีซ่า โดยยื่นเอกสารดังต่อไปนี้
- กรอกแบบฟอร์มขอวีซ่า (ขอรับได้ที่สถานฑูตสวิตเซอร์แลนด์)
- หนังสือเดินทางที่มีอายุการใช้อย่างน้อย 6 เดือนขึ้นไป
- ใบตอบรับจากสถานศึกษา - รูปถ่ายขนาด 1.5-2 นิ้ว จำนวน 3 รูป - หนังสือรับรองฐานะทางการเงินของผู้ปกครอง |
|
4. |
4. เมื่อนักเรียนยื่นวีซ่าแล้ว
สถานฑูตจะรับเรื่องไว้ เพื่อรอการตรวจสอบกับกระทรวงการต่างประเทศ
ของสวิตเซอร์แลนด์ โดยจะโทรศัพท์นัดหมายให้นักเรียน
ไปประทับตราวีซ่าในภายหลัง โดยปกติ
สถานฑูตจะประทับตราวีซ่าให้นักเรียน
ก่อนสถานศึกษาเปิดเรียน 1 สัปดาห์ |
| |
TSAB ขอแนะนำ
สถาบันและมหาวิทยาลัย
|
|
|